วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ว่ากันว่า 98% ของคนในโลก แก้โจทย์นี้ไม่ได้ !!

2เป็นโจทย์ปัญหาของ อัลเบิร์ท ไอสไตน์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกเรา...
และว่ากันว่ามนุษย์ทั้งโลก 98% ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้
แหม...แบบนี้มันท้าทายว่าเราจะเป็น 2% ตอบได้หรือเปล่า
....มาลองทำดีกว่า>>>>>>>>
โจทย์ !!
เรื่องมีอยู่ว่ามีบ้านอยู่ 5 หลัง
ในแต่ละหลังมีสีต่างกัน
แต่ละบ้านมีคนอยู่ 1 คน
ต่างกัน 5 ชนชาติ
ทุกคนจะดื่มน้ำที่แตกต่างกัน
สูบบุหรี่ยี่ห้อแตกต่างกัน
และเลี้ยงสัตว์ต่างชนิดกัน ดังนี้
1. คนที่เป็นชาวอังกฤษอยู่บ้านสีแดง
2. คนที่เป็นชาวสวีเดนเลี้ยงหมา
3. คนที่เป็นชาวเดนมาร์กดื่มชา
4. บ้านสีเขียวอยู่ทางซ้ายของบ้านสีขาว
5. เจ้าของบ้านสีเขียวดื่มกาแฟ
6. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Camel เป็นคนเลี้ยงนก
7. เจ้าของบ้านสีเหลืองสูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
8. คนที่อยู่บ้านหลังกลางดื่มนม
9. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่บ้านหลังแรก
10. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro อยู่ติดกับคนเลี้ยงแมว
11. คนที่เลี้ยงหนูแฮมเตอร์อยู่ติดกับของที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Dunhill
12. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Kent ดื่มเบียร์
13. คนที่เป็นชาวเยอรมัน สูบบุหรี่ยี่ห้อ Vogue
14. คนที่เป็นชาวนอร์เวย์อยู่ติดกับบ้านสีฟ้า
15. คนที่สูบบุหรี่ยี่ห้อ Marlboro เป็นเพื่อนกับคนดื่มน้ำส้ม
คำถาม....... ใครเป็นคนเลี้ยงปลา?????








>
>เฉลยน่ะ
















>
>
>
>
>
>ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ตอบถูก คณเป็นคนเก่งจิงๆ
คำตอบ คือ ชาวเยอรมัน นั่นเอง



ขอบคุณ http://postjung.com/

วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทานอย่างไรให้"ทานเป็น ลืมป่วย"



เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเด็กๆมักมีหน้ากากปิดจมูกป้องกันโรคไข้หวัด 2009 กันทั่วหน้า พ่อแม่หลายคนต่างวิตกไปตามๆกัน ในเรื่องของภูมิคุ้มกันและภูมิต้านทานในร่างกายของพวกเขาว่าจะเสี่ยงต่อโรคนี้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่ผู้ใหญ่เองก็อาจกังวลกับโรคต่างๆนานาที่อาจเข้ามาทักทายได้ตลอดเวลาเช่นกัน สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ นับว่าเป็นเกราะป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพมาก ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ลูก รวมไปถึงปู่ ย่า ตา ยาย และทุกคนในบ้าน อย่างไรก็ดี ก่อนจะเลือกซื้ออาหารเสริมหรืออาหารบำรุงสุขภาพ เราลองมาดูเคล็ดลับเรื่องอาหารกับสุขภาพกันก่อน โดยเฉพาะคุณแม่บ้านที่ต้องทำอาหารเพื่อสมาชิกในครอบครัวว่า ทุกคนควรทานอาหารอย่างไรถึงจะเรียกว่า ‘ทานเป็น ลืมป่วย’ กัน

ทานอาหารครบ 5 หมู่
นอกจากการควบคุมน้ำหนักแล้ว การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อาจเป็นข้อแรกที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละหมู่นั้นให้คุณค่าทางอาหารที่ต่างกันไป ซึ่งความหลากหลายนี่เองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการทานอาหารให้หลากหลายนั้น หมายถึงการทานอาหาร 20-30 ชนิดต่อวัน อาจดูเหมือนมากเป็นเรื่องยาก แต่ทำได้ง่าย ๆ เช่นถ้ามื้อเช้า กินข้าวต้มปลา ในข้าวต้มปลา มีข้าว มีน้ำ มีปลา มีผักชี ต้นหอม ใส่น้ำตาล น้ำปลา ดื่มน้ำส้มอีกแก้ว มื้อเช้าก็ทานอาหาร 8 อย่างแล้ว ส่วนมื้อกลางวัน ถ้าทานผัดไทยสักจาน ก็มีเส้นหมี่ กุ้ง เต้าหู้เหลือง ถั่วลิสง น้ำมัน ผัก ถั่วงอก ก็เป็นอาหาร 7 อย่างแล้ว ขณะที่มื้อเย็น ทานข้าวกับน้ำพริกปลาทู ก็มีกะปิ น้ำปลา มะนาว พริก ปลาทู ผักสด มีผลไม้ด้วย นับไปนับมาก็ 20 กว่าอย่างแล้ว ซึ่งการทานลักษณะนี้เรียกว่า "ทานหลากหลาย" ที่จะส่งผลให้สารอาหาร จากอาหารที่หลากหลายมีปริมาณที่สมดุล กับร่างกายที่ต้องการแล้ว ส่วนคำว่า " หมั่นดูแลน้ำหนักตัว" นั้นหมายถึงอย่าให้ตัวเองอ้วนไปหรือผอมไป คอยหมั่นสังเกต ได้จาก ดัชนีมวลกาย โดยเอาน้ำหนักตัวเป็นตัวตั้ง หารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง ถ้าค่าที่ได้อยู่ระหว่าง 18.5-25 แสดงว่าร่างกายได้สัดส่วนดีแล้ว
ทานข้าวเป็นหลักสลับแป้งบางมื้อ
แม้ข้าวเป็นอาหารหลักของครอบครัวคนไทยมานาน แลคุณค่าทางอาหารโดยเฉพาะข้าวซ้อมมือนั้นมีคุณค่ามากต่อร่างกายก็ตาม แต่ก็ไม่จำเป็น ต้องทานข้าวทุกมื้อ เช่นอาหาร 3 มื้อหลัก เช้า กลางวัน เย็น มื้อหนึ่งกินสักประมาณ 2-4 ทัพพี ทานข้าวพออิ่ม หรือถ้าเบื่อข้าว ก็ทานก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน วุ้นเส้น บะหมี่ทดแทนเป็นบางมื้อก็ได้ ส่วนความเชื่อที่ว่า ถ้างดข้าวแล้วจะช่วยลดความอ้วนได้นั้น ไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะทั้งข้าว และแป้ง ให้คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่จำเป็น ต่อร่างกายมากผัก-ผลไม้ อย่าให้ขาด
ผักพื้นบ้านของไทยมีเยอะแยะ ทั้งกระถิน ดอกแค สะตอ คะน้า ผักกาด แตงกวา มะเขือเทศ หรือผลไม้ ตามฤดูกาลควรทานเป็นประจำ เพราะไร้คอเลสเตอรอล และควรเป็นผักที่ไร้สารพิษด้วย ซึ่งในหนึ่งวัน คุณแม่บ้านควรทำอาหารที่มีผัก-ผลไม้ในทุกวัน โดยทุกคนควรทานให้ได้รวมกัน วันละครึ่งกิโลกรัม หรือ 5 ขีด อาจจะดูเยอะ แต่จริงๆแล้ว จริง ๆแล้วไม่มากเลย เช่น กล้วยลูกหนึ่งก็ 70 กรัมแล้ว ส้ม 1 ลูกก็ 100 กรัมแล้ว ฝรั่งครึ่งผลอีก 100 กรัม มะละกอ สุก 3-4 ชิ้น ก็ 100 กรัม ไหนจะพืชผักที่ทานแต่ละมื้อไปก่อนหน้าก็จะมากกว่า 100 กรัม เชื่อว่าเป็นเรื่องง่ายมากถ้าจะทำกันจริง ๆ
ทานปลา-เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
เป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพ หากครอบครัวไหน นิยมทานปลาหรือเนื้อสัตว์ที่ไม่เป็นไขมันวันละมื้อ ซึ่งปลาก็ไม่ต้องทานมากจนเกินไป ถ้าคิดง่าย ๆ เปรียบเทียบกับปลาทู ทานสักครึ่งตัวก็พอแล้วถ้าในวันนั้นไม่สามารถหาปลากินได้ให้ทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์ ที่มาจากถั่ว ถั่งเหลือง ถั่วเขียว หรือเต้าหูเหลืองแทนก็ได้ ทั้งนี้เนื้อสัตว์ใหญ่นั้น ควรให้ทานทุกวันประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ แต่ไม่อยากแนะนำให้ทานเนื้อสัตว์ใหญ่มาก ๆ เพราะเดี๋ยวจะเผลอไปทานเนื้อสัตว์ติดมัน ส่วนไข่นั้น ถ้าผู้ใหญ่ก็ทานสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง เด็ก ๆ ในวัยเจริญเติบโตทานได้ทุกวัน
ดื่มนมกันเถอะ
เด็กจะเติบโตสูงใหญ่ ผู้ใหญ่จะแข็งแรง หากพวกเขาดื่มนมเป็นประจำ เพราะนมเป็นแหล่งอาหารที่ดี มีทั้งโปรตีน พลังงาน วิตามินบี 2 แคลเซียม และแร่ธาตุอื่น ในต่างประเทศนั้น มีกระแสการต่อต้านการดื่มนม เพราะคนในสังคมเริ่มที่จะมีการบริโภคเกินความจำเป็น เช่น คนอเมริกันดื่มนมวันละ 1.50 ลิตร เกินความต้องการของร่างกาย คนเราต้องอยู่เป็น ทานเป็น ดังนั้นควรดื่มนม เหมาะสมตามวัยดังนี้ เด็ก ๆ ควรดื่มวันละ 2-3 แก้ว ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว ถ้าไม่ดื่มเสียเลย ในอนาคต เราอาจจะ มีปัญหาเรื่องความแข็งแรงของกระดูกได้ทานไขมันแต่พอควร สำหรับผู้ใหญ่ในบ้านควรจำกัดไขมันในร่างกายให้น้อยลงและพยายามหลีกเลี่ยงของทอด ของผัด แกงใส่กะทิ และหันมาทานผักนึ่ง ผักลวกคู่น้ำพริกแทน ส่วนนมก็เลือกดื่มนมพร่องมันเนย เพราะร่างกายหยุดเจริญเติบโตแล้ว หากทานไขมันมากเกินไป อาจทำให้คอเลสเตอรอลในร่างกายสูง และวันหนึ่งอาจเป็นโรคหลอดเลือดตีบได้ ทั้งนี้ร่างกาย ต้องการไขมันไม่เกิน 30% ของพลังงานในร่างกายเท่านั้น
หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็มจัด หวานจัด
การทานอาหารรสเค็มจัดจนเกินไปจะส่งผลให้เป็นโรคความดันโลหิตสูงได้ ส่วนคนที่ทานอาหารหวานจัด มีน้ำตาลมากเกินไป ก็อาจจะทำให้มีปัญหา เรื่องโรคอ้วน ไขมันในเส้นเลือดสูง นอกจากนี้ถ้าทานรสหวาน ๆ ตลอดเวลา ก็ทำให้เสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้เช่นกัน
อาหารสะอาดปราศจากปนเปื้อน
ใช้ความสังเกตดูด้วยตา ดม และมอง ว่าอาหารมีอะไรปกคลุมป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้ อาหารสกปรกหรือไม่ ดูให้ดีว่าอาหารสะอาด เพราะอาหารจะปนเปื้อนสารเคมีหรือสารผสมอะไร ถ้ามองด้วยตาเปล่า ก็ไม่รู้อยู่แล้ว การใช้ความสังเกต ก็ถือว่าเป็นการป้องกันที่ดีอย่างหนึ่งแล้ว
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ข้อนี้คงต้องเตือนบรรดาหัวหน้าครอบครัวโดยเฉพาะ ซึ่งหากชวนกันดื่มมากเกินไปอาจส่งผลตายผ่อนส่งได้ แต่หากต้องดื่มจริงๆ ก็สามารถดื่มได้บ้างเล็กน้อย สักวันละสองจอกหรือ ถ้าเป็นเบียร์ ก็ไม่ควรเกินวันละ 1-2 กระป๋อง และเคล็ดลับเพียงเท่านี้ หากทุกคนในบ้านรักสุขภาพ และปฏิบัติตามก็จะทำให้ครอบครัวลืมป่วยแน่นอน



ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaifitway.com/

Myspace Contact Tables